ในการผลิตยางแผ่นรมควันมาตรฐาน GMP ของฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง ได้แนะนำให้เกษตรกรกรองน้ำยางสดจากสวนก่อนที่จะส่งไปยังโรงงาน และเมื่อถึงโรงงานแล้วจะต้องใช้ตัวกรองขนาด 60 เมช กรองน้ำยางตรงจุดรับน้ำยางเพื่อขจัดสิ่งสกปรกหรือคัดกรองยางที่จับตัวเป็นก้อนออก นำมาชั่งน้ำหนักแล้วตักสุ่มตัวอย่างเพื่อใช้คำนวณหาปริมาณเนื้อยางแห้ง
จากนั้นก่อนที่จะเทลงบ่อรวมยางจะต้องกรองน้ำยางสดอีกครั้งด้วยตะแกรงกรองขนาด 100 เมช เป็นครั้งที่สาม โดยรวบรวมจนกว่าจะได้ปริมาณมากพอ แล้วถึงจะปล่อยลงตะกงตับซึ่งจะต้องกรองผ่านตะแกรงกรองขนาด 100 เมช เป็นครั้งสุดท้าย
ดูเหมือนกว่ากระบวนการจะซับซ้อนหลายขั้นตอน แต่ความจริงแล้วการกรองน้ำยางลักษณะนี้เป็นการทำให้น้ำยางของสมาชิกแต่ละรายรวมผสมเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสมบูรณ์ และยังเป็นการป้องกันและกำจัดสิ่งสกปรกและปริมาณเจลที่อยู่ในน้ำยางสด ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ยางมีสมบัติที่ไม่คงที่ มีความแปรปรวนสูง สิ่งสกปรกมาจากไหน
สิ่งสกปรกหรือสิ่งปนเปื้อน
เกิดในขั้นตอนตั้งแต่กรีดยางโดยมีเศษเปลือกไม้ตามรอยกรีด สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในถ้วยรองรับน้ำยาง หรือในภาชนะรวบรวมน้ำยาง หรือขณะนำน้ำยางส่งโรงงาน สิ่งสกปรกเหล่านี้หากไม่ขจัดโดยวิธีกรองจะทำให้มีสิ่งสกปรกปนเปื้อนไปกับแผ่นยางได้ และส่งผลต่อสมบัติของยางในการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
เจลเกิดขึ้นได้อย่างไร
เจลเกิดขึ้นในขณะที่กรีดน้ำยางออกมา โดยในน้ำยางสดนอกจากจะมีส่วนของคาร์บอนกับไฮโดรเจนแล้ว ยังพบกลุ่มอัลดีไฮด์ที่ทำปฏิกิริยาเชื่อมโยงโมเลกุลทันที่ที่กรีดน้ำยางออกมา ทำให้สายโซ่โมเลกุลยางยาวขึ้นและเมื่อเกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องส่งผลให้น้ำยางจับตัวเป็นก้อนเกิดลักษณะเป็นไมโครเจลที่มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่าน้ำยางเฉลี่ย 10 เท่า หากน้ำยางได้ผ่านการกรองะเอียด ไมโครเจลก็สามารถถูกขจัดออกไปได้ ส่งผลให้สมบัติของยางคงที่ สม่ำเสมอตลอดทั้งชุดการผลิต
ยางมีสมบัติคงที่ สม่ำเสมอ
การกรองผ่านตะแกรงกรองจนได้ยางที่สะอาด ขจัดปริมาณเจลที่อยู่ในน้ำยางออกไป จึงทำให้ยางแผ่นที่ผลิตได้มีสมบัติที่คงที่ สม่ำเสมอ ลดการแปรปรวน ทำให้สามารถจัดการกระบวนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ง่ายมาก ลดการสูญเสีย เพียงเท่านี้ก็จะได้ยางเกรดพรีเมี่ยมที่มีสมบัติทางวิทยาศาสตร์ที่ดีเยี่ยม นำไปผลิตยางล้อเครื่องบินที่สร้างมูลค่าอย่างน่าอัศจรรย์
เรื่อง : ปรีดิ์เปรม ทัศนกุล
ภาพ : คมกริช กังรัตน์ |