กลับหน้าเว็บไซต์
main
ตารางราคายาง วันนี้
ณ ตลาดกลาง ยางพาราหาดใหญ่

ข่าวสาร กยท. >> ข่าวประชาสัมพันธ์การยาง RSS

กยท. ร่วม ม.อ. จัดสัมมนา ไขทางออก การแพ้โปรตีนในยางฯ วางเป้าวิจัยฯ เพื่อสนับสนุนการใช้ถุงมือยางธรรมชาติ


วันที่ 25 พ.ย. 2563

       เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.63) กยท. ร่วม ม.อ. วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี จัดสัมมนาหัวข้อ การแพ้โปรตีนในยางฯ ณ โรงแรมบรรจงบุรี จ.สุราษฎร์ธานี หลังนักวิจัยพบ "ถุงมือแพทย์จากยางธรรมชาติไม่กระทบต่อผิวหนัง” แพทย์ ม.อ. ชี้ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ประธานบอร์ด กยท.หวังเป็นจุดเปลี่ยน สร้างเสถียรภาพราคายางพารา
      นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า การประชุมสัมมนา เรื่อง การแพ้โปรตีนในยางธรรมชาติ ทางออกเพื่อการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ยางธรรมชาติ ถือเป็น การเปิดมิติการวิจัยแบบเจาะลึกที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงการวิจัยเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโดยการวิจารณ์ หาข้อสนับหรือโต้แย้ง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคถุงมือยางพาราในวงกว้าง โดยจุดอ่อนที่น้ำยางธรรมชาติถูกโจมตีมากที่สุดคือ เรื่องโปรตีนที่อยู่ในยาง ซึ่งบางคนมีการแพ้แต่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก ทั้งนี้ องค์ความรู้ในปัจจุบัน เราสามารถทำยางธรรมชาติที่มีโปรตีนต่ำในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
      "ยางพาราธรรมชาติโปรตีนต่ำ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้แล้ว การนำงานวิจัยไปตีพิมพ์ เผยแพร่ต่อในเวทีระดับนานาชาติจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก ดังนั้น กยท. จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมมือกันสื่อสารกับสังคม โดยเฉพาะกลุ่มประเทศผู้ใช้ยางพาราและ
ถุงมือยาง ตลอดจนวงการแพทย์ ทั้งในและต่างประเทศได้รับรู้ เข้าใจ อันจะส่งผลต่อวงการยางพาราเป็นอย่างมาก สามารถเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราและเสถียรภาพราคายางต่อไปในอนาคต” 
นายประพันธ์ กล่าว
      รศ.ดร.เจริญ นาคะสรรค์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 มีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีถุงมือยางเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทสัญชาติอเมริกันสนใจจดสิทธิบัตรเรื่องยางธรรมชาติมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยียางพาราที่นำมาทำถุงมือแพทย์ ยังมีความต้องการอยู่ แม้ส่วนหนึ่งอาจเกิดการแพ้จากโปรตีน แต่ในเทคโนโลยีโพลิเมอร์ การสังเคราะห์โพลิเมอร์ก็ถือเป็นสารโลหะหนัก ที่อาจมีโอกาสออกมาทำเกิดโอกาสแพ้ได้เหมือนกัน
      "การสัมมนาครั้งนี้ เป็นการหาคำตอบเรื่องการแพ้โปรตีนในถุงมือยางธรรมชาติ ว่ามีความจริงมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากในปัจจุบันข้อมูลดังกล่าวได้ถูกบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ผู้คนเจ้าใจผิดเกี่ยวกับถุงมือยางธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องศึกษาอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดความเข้าใจ”
       ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นแพทย์ที่ใช้ถุงมือยางธรรมชาติในการปฏิบัติการทางการแพทย์ เผยว่า จากการวิจัยและนำถุงมือยางธรรมชาติให้แพทย์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ใช้ในการปฏิบัติงานจริง พบว่า ไม่เคยมีอาการแพ้ แต่ถ้าเป็นถุงมือของต่างประเทศ ที่เป็นประเภทถุงมือสังเคราะห์ จะมีอาการคัน ผิวแห้ง และมีอาการระคายเคืองบนบริเวณหลังมือ จึงเป็นโจทย์วิจัยที่อยากจะค้นหาว่า ในความเป็นจริง
      "ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตน้ำยาง ทำไมเราไม่ผลิตถุงมือยางธรรมชาติเอง เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับประเทศของเรา จากการใช้งานในฐานะผู้ใช้ จนกลายเป็นผู้ศึกษาวิจัย ต้องการบอกผู้ผลิตว่า ควรผลิตถุงมือยางพาราธรรมชาติ เพราะเมื่อเทียบกับยางสังเคราะห์แล้ว ถุงมือยางธรรมชาติมีความยืดหยุ่นดีกว่า ไม่มีความแข็งกระด้าง ใส่แล้วเข้ารูปกว่า และประสิทธิ์ภาพในการใช้งานทางการแพทย์”
      รศ.ดร.วรวิทย์ กล่าวต่อว่า เราต้องร่วมมือกันวิจัยเรื่องนี้ เพื่อให้รู้ว่ายางพาราธรรมชาติและยางสังเคราะห์มันแตกต่างกันหรือไม่ การแพ้ของผู้ใช้แต่ละคนอาจไม่ได้มาจากตัวถุงมือเพียงอย่างเดียว อาจจะเป็นสารจากตัวทำละลาย สิ่งแวดล้อมและสารเคมีอื่นที่อยู่รอบตัวผู้ใช้เอง
 
 
 
ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.
t20201125162528_37346.jpg
t20201125162550_37347.jpg
t20201125162553_37348.jpg
t20201125162603_37349.jpg
t20201125162617_37350.jpg
t20201125162621_37351.jpg
t20201125162633_37352.jpg
t20201125162639_37353.jpg
t20201125162650_37354.jpg
t20201125162700_37355.jpg
t20201125162706_37356.jpg
t20201125162715_37357.jpg

Valid HTML 4.01 Transitional

สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - การยางแห่งประเทศไทย (Rubber Authority of Thailand)
เลขที่ 67/25 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 โทร 0-2433-2222 ต่อ 241 แฟ็กซ์ 0-2435-8956, 0-2424-3683