กลับหน้าเว็บไซต์
main
ตารางราคายาง วันนี้
ณ ตลาดกลาง ยางพาราหาดใหญ่

ข่าวสาร กยท. >> ข่าวประชาสัมพันธ์การยาง RSS

กยท. ย้ำชัด ยางพาราเป็นพืชเกษตรศักยภาพสูง ปลูกแล้วได้คาร์บอนเครดิต สร้างกำไรสองต่อ


วันที่ 28 ต.ค. 2565

         การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ยืนยันยางพาราเป็นพืชเกษตรที่มีศักยภาพสูงในการกักเก็บ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สามารถแปลงมาเป็นคาร์บอนเครดิต สร้างรายได้ทางเสริมให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง
         นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาด ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตกันมากขึ้น เนื่องจากมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการซื้อขายที่มีมาตรฐาน โดยเฉพาะตอนนี้ที่ราคาขายของคาร์บอนเครดิตเฉลี่ยอยู่ที่ 120 บาท/ตันคาร์บอนไดออกไซด์ หลายคนจึงเริ่มมีคำถามว่าต้นไม้แบบไหน พันธุ์ใด ชนิดใด สามารถแปลงคาร์บอนเครดิตมาเป็นมูลค่าเงินให้กับผู้ปลูกในอนาคตได้ ซึ่งแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และผลิตคาร์บอนเครดิต ไม่ได้มีเพียงภาคป่าไม้และพื้นที่สีเขียวเท่านั้น หากยังมีภาคการเกษตรที่สามารถ กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแปลงปริมาณการกักเก็บเป็นเครดิตที่สามารถนำไปซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน ในตลาดคาร์บอนได้ 
         ปัจจุบันมีพืชเกษตรหลายชนิดที่ถูกนำมาประเมินหาปริมาณการสะสมคาร์บอน ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน ลำไย และไม้ยืนต้นอื่นๆ โดยยางพาราถือเป็นพืชเกษตรที่มีศักยภาพสูงในการกักเก็บ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากลำต้นของต้นยางพารามีลำต้นหลักเพียงต้นเดียว ไม่มีการแตกนาง หรือแตกกอ ทั้งยังมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็ว จึงมีมวลชีวภาพแปรผันตรงตามอายุของยางพารา เมื่อต้นยางพาราอายุมากขึ้นมวลชีวภาพจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปริมาณมวลชีวภาพมีผลต่อศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนและอัตราการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในลักษณะแปรผกผันตามอายุของยางพารา (อบก.และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2554; ระวี เจียรวิภาและคณะ, 2555; มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2563) ดังนี้ 
· ยางพาราอายุ 1-5 ปี สามารถกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 1.07 ตันต่อไร่ต่อปี · อายุ 6-10 ปี สามารถกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 1.34 ตันต่อไร่ต่อปี · อายุ 11-15 ปี สามารถกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 1.21 ตันต่อไร่ต่อปี · อายุ 16-20 ปี สามารถกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 1.08 ตันต่อไร่ต่อ · อายุ 21-25 ปี สามารถกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 0.96 ตันต่อไร่ต่อปี

         ผู้ว่าการ กยท. กล่าวย้ำว่า ในตอนนี้ กยท. ตั้งเป้าจะขยายพื้นที่การดำเนินโครงการดังกล่าว ให้ครอบคลุมพื้นที่สวนยางพาราทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสวนยางพาราอยู่ภายใต้การดูแลของ กยท. ประมาณ 22 ล้านไร่ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาสู่เศรษฐกิจสีเขียวและสังคมคาร์บอนต่ำ รวมทั้งเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยางอีกทางหนึ่ง.
 
ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.       
t20221028223957_43332.jpg
t20221028224005_43333.jpg

Valid HTML 4.01 Transitional

สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - การยางแห่งประเทศไทย (Rubber Authority of Thailand)
เลขที่ 67/25 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 โทร 0-2433-2222 ต่อ 241 แฟ็กซ์ 0-2435-8956, 0-2424-3683