กลับหน้าเว็บไซต์
main
ตารางราคายาง วันนี้
ณ ตลาดกลาง ยางพาราหาดใหญ่

ข่าวสาร กยท. >> ข่าวประชาสัมพันธ์การยาง RSS

กยท. เดินหน้า ส่งเสริมใช้ยางในประเทศ จับมือดีสโตน ดัน โครงการยางล้อประชารัฐ พร้อมแจงหลายหน่วยงานรัฐ ติดปัญหางบ กระทบต่อการแปรรูป


วันที่ 30 มี.ค. 2560

                 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง กล่าวว่า จากนโยบายในการส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศของรัฐบาล มีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญ และสนใจในการร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร ที่ผ่านมาจึงเกิดโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ (คสร.) รับซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรกร ส่วนหนึ่งเพื่อลดปริมาณในตลาด และเป็นการชี้นำราคายางให้สูงขึ้น และผลการดำเนินงานโครงการครั้งนี้ บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่กำหนดไว้ เนื่องจาก ราคายางมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรชาวสวนยาง มีการนำยางมาขายผ่านโครงการน้อยลง ปริมาณยางในโครงการประมาณ 2,800 ตัน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการ แม้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายโครงการที่ตั้งไว้ 100,000 ตัน อย่างไรก็ตาม ด้วยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อนำไปแปรรูปของแต่ละหน่วยงานที่มีการแจ้งความประสงค์จะนำยางพาราไปแปรรูปใช้ในประเทศ ประสบปัญหาเรื่องงบประมาณประจำปีของแต่ละหน่วยงานภาครัฐที่กำหนดไว้ ทำให้ไม่สามารถนำยางในโครงการดังกล่าว ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทันที กยท.จึงได้ต่อยอดเป็นโครงการยางประชารัฐ เพื่อกระตุ้นการใช้ยางในประเทศและสร้างมูลค่าสินค้ายางพาราให้เพิ่มสูงขึ้น
               นายณกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท. ในฐานะองค์กรรัฐวิสาหกิจหลักที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ ตระหนักถึงความสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติที่ส่งออกรายใหญ่ของโลก หากมีการกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการแปรรูปเพื่อใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากที่สุด จะเป็นประโยชน์สูงสุดที่จะนำผลผลิตที่มีคุณภาพ มาผลิตเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อให้คนในประเทศได้ใช้ของดีมีคุณภาพ ซึ่งการริเริ่มโครงการล้อยางประชารัฐ เป็นหนึ่งในโครงการที่จะมีการนำยางไปใช้มากที่สุด เพราะธุรกิจยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบจากยางพาราเป็นจำนวนมาก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยมีผลผลิตยางประมาณ 4.47 ล้านตัน สามารถนำไปใช้ภายในประเทศประมาณ 0.6 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 13.42 ของผลผลิตทั้งหมด และยางส่วนใหญ่ถูกใช้ในการผลิตยางยานพาหนะ 0.34 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 56.48 ของปริมาณยางทั้งหมด ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายในประเทศจะมีความเติบโตขึ้นในช่วงปี 2560 เนื่องมาจาก ตลาดส่งออกมีการขยายสู่ภูมิภาคอาเซียนตามแผนการส่งออกรถอีโคคาร์จากเงื่อนไขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น ดังนั้น หากมีการนำผลผลิตยาง ไปผลิตยางล้อรถยนต์นั่งที่มีส่วนผสมของยางพาราเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ได้มาตรฐานคุณภาพในราคาต่ำกว่าท้องตลาด จะเป็นโอกาสในการนำวัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศ เพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติมากขึ้นด้วยมีการส่งออกวัตถุดิบยางประเภทต่างๆ เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม
"การที่ กยท.จับมือร่วมกับบริษัทผลิตยางรถยนต์เอกชน ดีสโตน ซึ่งเป็นแบรนด์ยางล้อของไทยที่ส่งขายทั่วโลก ทั้งในแถบเอเชียและยุโรป เป็นที่เชื่อมั่นในมาตรฐานด้านความปลอดภัย มุ่งจำหน่ายแก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่สนใจ นับว่าเป็นโอกาสดีทั้งภาคเกษตรกร เอกชน และรัฐ ที่จะร่วมกันนำน้ำยางพาราจากภาคเกษตรกร เข้าสู่กระบวนการแปรรูป และเกิดการใช้จริง” นายณกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย
 
 
ทีมข่าวประชาสัมพันธ์การยางฯ

Valid HTML 4.01 Transitional

สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - การยางแห่งประเทศไทย (Rubber Authority of Thailand)
เลขที่ 67/25 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 โทร 0-2433-2222 ต่อ 241 แฟ็กซ์ 0-2435-8956, 0-2424-3683