กลับหน้าเว็บไซต์
main
ตารางราคายาง วันนี้
ณ ตลาดกลาง ยางพาราหาดใหญ่

ข่าวสาร กยท. >> ข่าวประชาสัมพันธ์การยาง RSS

ผู้ว่าการ กยท. เสวนา ร่วมตลาดหลักทรัพย์ จับทิศ พิชิตราคายางพารา เจาะลึกทิศทางราคายางครึ่งหลัง ปี 60 ชี้แนวทางสนับสนุนสินค้ายางในฐานะประเทศผู้ผลิตรายใหญ่


วันที่ 15 ส.ค. 2560

              เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นผู้ร่วมเสวนาหัวข้อ อนาคตยางพาราไทย โอกาสและความท้าทาย ภายในงานสัมมนาพิเศษ "จับทิศ พิชิตราคายางพารา” โดยเจาะลึกแนวโน้มทิศทางราคายางครึ่งหลังปี 60 พร้อมชี้แนวทางสนับสนุนสินค้ายางพาราของภาครัฐในฐานะประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
              ดร. ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า ภาพรวมของการเสวนาในวันนี้ ได้นำเสนอผลการประชุมในระดับไตรภาคีให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมถึงผู้เข้าร่วมงานรับทราบ ว่า 3 ประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มองว่าปัจจัยพื้นฐานยางพาราในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง คือ มีความต้องการใช้ยางสูง ขณะเดียวกันปริมาณยางช่วงเวลานี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีปริมาณน้อยกว่า เนื่องจากประสบอุทกภัยน้ำท่วม ฝนตกหนัก ทั้งภาคอีสานและภาคใต้ ขณะที่ประเทศอินโดนีเซียประสบภาวะอากาศหนาวไม่สามารถกรีดยางได้ ปริมาณยางที่ออกมาสู่ตลาดจึงมีปริมาณค่อนข้างต่ำ ฉะนั้น เมื่อมองปัจจัย demand และ supply ประกอบกันแล้วยังเป็นบวก ประกอบประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อยางรายใหญ่ มีปริมาณยางใน stock ลดลง อย่างชัดเจนกว่า 19% ในช่วงระยะเวลาเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา จึงทำให้จีนมีความต้องการนำเข้าผลผลิตยางเพิ่มขึ้นเช่นกัน
             สำหรับราคายางที่มีการปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องการเก็งกำไรของตลาดล่วงหน้าทั้ง 3 ตลาด เพราะเมื่อมีการตรวจสอบเรื่องแรงซื้อกับแรงขาย พบว่าแรงขายมีมากเกินไป เมื่อใกล้ถึงเวลาส่งมอบจะมีแรงซื้อย้อนกลับมา เพราะฉะนั้น ในระยะอันใกล้จะเห็นว่าราคามีการปรับตัวขึ้น โดยตลอด ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาปัจจัยดังกล่าวได้สะท้อนมาถึงราคาในประเทศไทย เช่น ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 8 บาท จึงถือว่าราคายางเริ่มมีการไต่ระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
              ดร.ธีธัช กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเสวนาครั้งนี้ การยางแห่งประเทศไทยได้ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักลงทุน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปที่สนใจจะเข้าซื้อยางในตลาดยางล่วงหน้าของประเทศไทย (TFEX) เข้าใจถึงการร่วมมือกับนักธุรกิจวางแผนดำเนินการด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้ราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเบื้องต้นจากการวิเคราะห์สถานการณ์พบว่าแรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ ดังนั้น ต้องสร้างแรงซื้อในตลาดให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความสมดุลและดันราคาให้เข้าสู่ดุลยภาพ สิ่งสำคัญ คือ การร่วมกันในลักษณะของเงินกองทุนเพื่อเพิ่มแรงซื้อ ซึ่งเป็นการเข้าซื้อทั้งในตลาดส่งมอบจริง และตลาดการซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเมื่อเพิ่มกำลังซื้อทั้ง 2 ตลาดแล้ว จะเห็นว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคามีการปรับช่วงเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันทั้ง 2 ตลาด ซึ่ง กยท. จะดำเนินการเพิ่มแรงซื้อต่อไป จนกว่าราคาจะอยู่ในกรอบที่ทุกฝ่ายสามารถอยู่ได้ ทั้งในภาคของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ใช้ยางทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
              "การตั้งเป้าราคาจะมองเป็นกรอบของราคา เปรียบเทียบจากต้นทุนการปลูกของเกษตรกร ณ วันนี้ อยู่ที่ประมาณ 50 กว่าบาท (อ้างอิงตัวเลขจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร) เมื่อบวกกำไรพื้นฐาน ราคาควรอยู่ที่ 60 กว่าบาท โดยมองว่ากรอบของราคาในปีนี้ เมื่อวิเคราะห์จากปริมาณของความต้องการแล้ว น่าจะอยู่ในกรอบ 60 ถึง 70 บาท ซึ่งเป็นกรอบที่คิดว่าทุกฝ่ายสามารถดำเนินธุรกิจของตัวเองได้ ในส่วนของเกษตรกรจะไม่กระทบความเป็นอยู่ของเกษตรกร สำหรับในส่วนของนักลงทุน คาดว่าจะเป็นระดับราคาที่ยังมีโอกาสทำกำไรได้” ผู้ว่าการ กยท. กล่าวทิ้งท้าย
            สิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้ คือ การสื่อสารเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร จะต้องเป็นข้อมูลที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง มีความถูกต้อง ชัดเจน ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่ามีข่าวลือ และข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งสร้างความเข้าใจผิด มีผลค่อนข้างมากต่อจิตวิทยาของตลาด เพราะฉะนั้น เราควรเลือกรับข้อมูลข่าวสารโดยตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและอย่าหลงเชื่อข่าวลือ เพราะถือว่าโอกาสของตลาดยางยังมีอีกมาก
 
ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.
t20170815145927_18597.jpg
t20170815145932_18598.jpg
t20170815145941_18599.jpg
t20170815145948_18600.jpg
t20170815145957_18601.jpg
t20170815150010_18602.jpg
t20170815150019_18603.jpg

Valid HTML 4.01 Transitional

สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - การยางแห่งประเทศไทย (Rubber Authority of Thailand)
เลขที่ 67/25 ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 โทร 0-2433-2222 ต่อ 241 แฟ็กซ์ 0-2435-8956, 0-2424-3683